เรียบเรียงโดย ประเสริฐ
ศรประสิทธิ์
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวเองก่อนนะครับ กระผมจบปริญญาโท จากคณะวิทยาศาสตร์ สาขาเคมี
ปัจจุบันเป็นนักวิจัยพัฒนาอุปกรณ์ที่ใช้วัดคุณภาพยางพาราหรือเครื่องวัดเปอร์เซ็นต์ยางแห้งนั่นเอง
ในระหว่างการศึกษาวิจัยซึ่งต้องใช้เวลานานเพราะต้องออกไปเก็บตัวอย่างน้ำยางสดจากชาวสวนยาง
ร้านรับซื้อน้ำยางบ้าง ซึ่งในช่วงที่เก็บตัวอย่างก็ได้มีโอกาศนั่งคุยกับพ่อค้าซื้อน้ำยาง
และชาวสวน ซึ่งประเด็นที่พูดคุยกันประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือ
การเติมน้ำลงในน้ำยางสดหลังจากกรีดยางเพื่อให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นจะทำให้ได้ราคารับซื้อที่สูงขึ้น
ด้วยระบบการซื้อน้ำยางระหว่างร้านรับซื้อที่ซื้อจากชาวสวนปัจจุบันไม่ได้ช่วยให้ชาวสวนได้ราคาเพิ่มขึ้นตามที่ชาวสวนเข้าใจครับ
เพราะอะไรหรือครับ เดี่ยวผมจะเล่าให้ฟังครับ
ประเด็นแรกเลยราคารับซื้อน้ำยางปัจจุบันส่วนมากจะซื้อตามเปอร์เซ็นต์ถ้าน้ำยางเปอร์เซ็นต์สูงก็จะซื้อราคาสูงถ้าเปอร์เซ็นต์ต่ำก็จะซื้อราคาต่ำ
อย่างเช่นน้ำยางมีเปอร์เซ็นต์น้ำยาง 40% รับซื้อราคา 74 บาท เปอร์เซ็นต์น้ำยาง 39% ก็จะรับซื้อ73 และลดลงไปเรื่อยๆ |
| ราคารับชื้อน้ำยางพาราตามเปอร์เซ็นต์ยางแห้ง
ดังนั้นสิ่งแรกที่ต้องเข้าใจคือในน้ำยางประกอบด้วยอะไรบ้าง
ที่เราเห็นเป็นสีขาวเมื่อเราดูลึกๆ จริงๆแล้วในน้ำยางมีอนุภาคของยางขนาด 0.04 - 4 ไมโครเมตร ให้ลองจินตนาการขนาดของเส้นผมเราดูมีขนาดประมาณ 60-120 ไมโครเมตร แต่อนุภาคของยางเล็กกว่า 1,000 เท่า
จึงทำให้เราไม่สามารถมองเห็นอนุภาคของยางได้เนื่องจากมันเล็กเกินไป
แต่ถ้าอนุภาคเกิดการรวมตัวทำให้เกิดอนุภาคยางที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
และเริ่มเห็นเป็นเม็ดๆ หรือที่ชาวใต้เขาเรียกว่ายางเป็นแม่
อนุภาคของยางพวกนี้แหละครับ
ที่เขาจะเอาไปวัดเป็นเปอร์เซ็นต์ยางแห้งเพราะยางพวกนี้สามารถนำไปแปรรูปเป็นยางล้อรถ
หรืออื่นๆ ได้มากมาย
น้ำยางแต่ละสวนจะมีปริมาณเนื้อยางพวกนี้ไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น
พันธุ์ยาง อายุยาง สถานที่ปลูก ดิน และอื่นๆ
จึงทำให้มีการวัดปริมาณยางที่อยู่ในน้ำยางสดในการซื้อ-ขาย น้ำยางนั่นเอง
ความเชื่อเดิมๆ ก็คือเมื่อต้องการให้ได้ราคาเพิ่มขึ้นก็เติมน้ำลงไปในน้ำยางเพื่อให้ได้น้ำหนักเพิ่มขึ้น
แต่สิ่งที่ลืมคิดไปคือเพิ่มน้ำไปเพื่อเพิ่มน้ำหนักแต่ปริมาณเนื้อยางเท่าเดิม ผลที่ได้คือ
เปอร์เซ็นต์น้ำยางลดลงซึ่งสัมพันธ์กับน้ำหนักของน้ำที่เติมเข้าไป
จากทฤษฎีที่ได้รำเรียนมาในวิชาเคมีวิเคราะห์ ความสัมพันธ์ของเปอร์เซ็นต์ยางแห้งที่ลดลงเป็นไปตามสมการ
% ยางแห้งก่อนเติมน้ำ x น้ำหนักของน้ำยางสด = % ยางแห้งหลังเติมน้ำ x (น้ำหนักน้ำยางสด+ น้ำหนักที่เติมลงไป)
ถ้าต้องการรู้ว่า % ยางแห้งลดลงเท่าไรก็คำนวณได้จาก
(% ยางแห้งก่อนเติมน้ำ
x น้ำหนักยางสด) / (น้ำหนักยางสด+น้ำหนักน้ำที่เติมลงไป)
ยกตัวอย่างเช่น วันนี้ผมกรีดยางได้ยางมา 40% ได้ยางมา 40 กิโลกรัม ถ้าผมเอายางนี้ไปขายเลยที่ราคารับซื้อ 40% = 74 บาทต่อกิโลกรัม เมื่อคำนวณเป็นเนื้อยางแห้งจะได้เนื้อยางแห้ง 16 กิโลกรัม ผลจะได้เงิน 1,184 บาท แต่ถ้าผมเติมน้ำลงไปอีก
40 กิโลกรัม เมื่อคำนวณเปอร์เซ็นต์แล้วเปอร์เซ็นต์จะเหลือแค่ 20% และเมื่อคำนวณเป็นเนื้อยางแห้งออกมาก็จะได้น้ำหนักยางแห้งเท่าเดิมคือ 16 กิโลกรัม ซึ่งราคารับซื้อที่ 20% = 54 บาทต่อกิโลกรัม
ดังนั้นเมื่อผมผสมน้ำเขาไปแล้วผมจะได้เงิน 864 บาท จำนวนเงินที่ต่างกันคือ 320 บาท ครับ จะเห็นได้ว่าเติมน้ำลงไปแล้วแต่ได้เงินลดลง
320 บาท
แต่สิ่งที่ได้มาคือ น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น
รถที่ขนส่งก็ต้องสิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น ต้องใช้แรงมากขึ้น
บางครั้งอาจจะทำให้รู้สึกปวดหลังหรือโรคที่เกิดจากการยกของหนักที่ไม่ถูกวิธีอีกต่างหาก
ดังนั้นการที่จะขายน้ำยางให้ได้กำไรมากที่สุดคือไม่ต้องไปผสมน้ำลงไปเพื่อให้ได้น้ำหนักมากแค่นั้นครับ
กรีดเสร็จก็เอาไปขายได้เลยหรือถ้ายางบางสวนยางมันเกาะตัวง่ายหรือเป็นแม่ง่าย
ให้เติมแอมโมเนียไปเล็กน้อยก็จะทำให้เราได้กำไรมากที่สุดครับ
ปัจจุบันผมเชื่อว่าความเชื่อของการเติมน้ำลงไปจะเริ่มหายไปเรื่อยๆ เนื่องจากวิธีการวัดในปัจจุบันเป็นวิธีที่วัดผลได้ใกล้เคียงกันสมการที่ผมคำนวณมากขึ้นจนแทบจะเป็นค่าเดียวกัน
ซึ่งสิ่งที่ผมพัฒนาก็คือเครื่องมือที่ใช้ในการวัดเปอร์เซ็นต์ยางให้มีความถูกต้องมากขึ้นรวมทั้งใช้เวลาในการวัดที่รวดเร็วครับ
ซึ่งรายละเอียดของเครื่องกระผมก็จะมาเขียนในรายละเอียดในบทความต่อๆ
ไปครับ
สนใจเกี่ยวกับระบบการวัดเปอร์เซ็นต์ยางแห้งแบบพกพาหรือแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับยางติดต่อเรามาได้ที่ info.digitallatech@gmail.com |
